Sunday, April 22, 2007

Great trip in Rotorua and Taupo

วิวข้างหลังเป็นทะเลสาปและภูเขาหิมะน้ำตกสีน้ำเงิน
หนาวอะไรเช่นนี้หนอ
การเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ถ้าไม่มีอาจารย์สองคนที่ชวนไปเที่ยวด้วยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาส ได้ไป ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับทริปครั้งนี้ พอถึงวันเดินทางจริงๆ ผมไม่อยากที่จะตื่นเลย เพราะว่า อุณหภูมิตอนนั้นบอกได้ว่าคำเดียวว่าหนาวมากๆ แต่ก็กัดฟันตื่นขึ้นมา เพราะนานๆทีจะได้ออกไปเที่ยวแบบ นี้บ้าง สังเกตุได้จากเสื้อกันหนาวสองตัวที่ผมใส่ ยังอบอุ่นไม่พอเลย เข็มนาฬิกาหมุนไปที่ แปดโมงครึ่งก็มีรถ มารับผมที่บ้าน เป็นรถครอบครัวนั่งได้ 8 ที่นั่ง มีคนเดินทางทั้งหมด 5 คน ผมเลยถือโอกาสนั่งหลังสุดคน เดียว เผื่อว่าระหว่างทาง ฟังเพลงไปด้วย มองวิวรอบๆไปด้วย มันช่างโรแมนติกที่สุด ระหว่างทางผมเห็นฝูง แกะ และ ฝูงวัวจำนวนมาก โดยเฉพาะน้องแกะที่น่าตาน่ารัก เห็นแล้วอยากวิ่งเข้าไปใกล้ๆจังบรรยากาศข้าง ทางโดยรวมถือว่าค่อนข้างดีทีเดียว เราไปที่เมืองโรทัวรัวก่อน ไปดูโบสถ์ของชาวเมารีที่นั่น เป็นโบสถ์ที่อยู่ ติดกับทะเลสาปพอดี ผมนั่งนึกภาพถึงการมาโบสถ์ แล้วมองทะลุผ่านกระจกออกไป จะเป็นวิวของทะเลสาป มันช่างสวยงามอะไรเช่นนี้หนอ เมืองโรทัวรัว ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีบ่อน้ำพุร้อน พุ่งมาจากใต้ดินมากที่สุด ไปที่ไหนก็ได้กลิ่นซัลเฟอร์เต็มไปหมด น้ำพุร้อน มันขึ้นทุกที่เลย แม้กระทั่ง สวนหลังบ้านของใครหลายคน ภารกิจแรกใช้เวลาไม่นานนัก เราเดินทางกันต่อ ไปเมืองที่ชื่อว่า เทาโป ใช้เวลาเดินทางอีก ประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองนี้แหละที่ผมอยากไปมากๆ เพราะว่าเห็นในรูปก่อนมาแล้วว่ามันมีหิมะ และแล้วความฝันของ ผมก็เป็นจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะผมเห็น หิมะ แต่ว่ามันอยู่บนยอดเขา ผมไม่ได้สัมผัสมันจริงๆ แต่มองยังไง ก็สวยไปหมด ถ้าเปรียบเทียบกับคนเวลาเราเดินผ่านใครแล้วสะดุดตา เรามักจะหันไปมองอีก มองไม่มอง เปล่าแอบยิ้มซะอีก นั่นแหละความรู้สึกผมครั้งแรกที่รถ วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองเทาโป จากนั้นเราก็พักกินข้าวกันที่ ร้านอาหารไทย รสชาด ก็กินได้สำหรับฝรั่ง แต่สำหรับเราก็แปลกๆนิดหน่อย จากนั้นก็ไปแช่น้ำพุร้อน ให้หายเหนื่อยจากการเดินทางผมมีโอกาสได้เล่นสไลเดอร์ซึ่งมันต้องเดินขึ้นบันได สูงมาก เวลามองลงมา แทบจะไม่อยากเล่นจริงๆแล้วเขาไว้เล่นสำหรับเด็กนะแหละ แต่ผมก็เห็นว่ามันน่าเล่น อยากกลับไปเป็นเด็ก อีกครั้ง ก็เลยอาศัยความเนียน แอบย่องขึ้นไป ทั้งที่เราจะต้องจ่ายตังค์ที่เคาเตอร์ก่อน จริงๆผมก็ไม่รู้หรอก มารู้อีกทีก็ตอนที่เด็กฝรั่งตัวเล็กๆมาบอกตอนที่เรากำลังจะกระโดดจะให้เดินลงมา ก็กลัวเด็กมันว่าเอาว่าเรา ไม่กล้า555จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อไปยังน้ำตกที่ชื่อ น้ำที่ตกลงมาไหลผ่านไปนั้นมองเห็นเป็นสีฟ้าเข้มชัดเจน และใสสะอาดมาก ที่สำคัญเย็นเจี๊ยบ ถ้ากระโดดลงไป อุณหภูมิคงเหมือนน้ำเย็นจัดที่เราดื่มกัน เอาเป็นว่าทริปนี้ ผมเรียนรู้อะไรเยอะแยะมากมาย ที่บอกกับตัวเองว่าผมจะกลับมาเยือนเมืองนี้อีกครั้ง


No comments: