Wednesday, April 25, 2007

Give in (Yorm) just for YOU.

GIVE IN
I loved daring to live life as a man who has a dream.
Living life doing what I want, never caring what anyone thought.
Then you, I don't know where you came from,
you got my feelings mixed up.
You made me think hard about what I should do.
I started to give in, started to do as you wanted,
changed from the person that I was for you.

However you liked it. I just wanted you to be happy.
I gave in to you alone, you are the only important person for me.
I did without fail anything you wanted, because I loved you so much.
At least this time I've learnt what a life that has you in it is like.
Even if there are things I've had to change,
it's to keep you coming to see me.

I gave in to you alone, gave in to the best person.
I love you so much.

It's the song that I really like it. There is no way that you can find a perfect person who wants to spend the rest of her/his life with you but a million ways to find a really good one.
If you already have it...Don't lose it!!!


Credit: http://www.ethaimusic.com/popup/a_0011.htm
PS: If you want to listen to the song just click the play button.

Sunday, April 22, 2007

Great trip in Rotorua and Taupo

วิวข้างหลังเป็นทะเลสาปและภูเขาหิมะน้ำตกสีน้ำเงิน
หนาวอะไรเช่นนี้หนอ
การเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ถ้าไม่มีอาจารย์สองคนที่ชวนไปเที่ยวด้วยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาส ได้ไป ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับทริปครั้งนี้ พอถึงวันเดินทางจริงๆ ผมไม่อยากที่จะตื่นเลย เพราะว่า อุณหภูมิตอนนั้นบอกได้ว่าคำเดียวว่าหนาวมากๆ แต่ก็กัดฟันตื่นขึ้นมา เพราะนานๆทีจะได้ออกไปเที่ยวแบบ นี้บ้าง สังเกตุได้จากเสื้อกันหนาวสองตัวที่ผมใส่ ยังอบอุ่นไม่พอเลย เข็มนาฬิกาหมุนไปที่ แปดโมงครึ่งก็มีรถ มารับผมที่บ้าน เป็นรถครอบครัวนั่งได้ 8 ที่นั่ง มีคนเดินทางทั้งหมด 5 คน ผมเลยถือโอกาสนั่งหลังสุดคน เดียว เผื่อว่าระหว่างทาง ฟังเพลงไปด้วย มองวิวรอบๆไปด้วย มันช่างโรแมนติกที่สุด ระหว่างทางผมเห็นฝูง แกะ และ ฝูงวัวจำนวนมาก โดยเฉพาะน้องแกะที่น่าตาน่ารัก เห็นแล้วอยากวิ่งเข้าไปใกล้ๆจังบรรยากาศข้าง ทางโดยรวมถือว่าค่อนข้างดีทีเดียว เราไปที่เมืองโรทัวรัวก่อน ไปดูโบสถ์ของชาวเมารีที่นั่น เป็นโบสถ์ที่อยู่ ติดกับทะเลสาปพอดี ผมนั่งนึกภาพถึงการมาโบสถ์ แล้วมองทะลุผ่านกระจกออกไป จะเป็นวิวของทะเลสาป มันช่างสวยงามอะไรเช่นนี้หนอ เมืองโรทัวรัว ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีบ่อน้ำพุร้อน พุ่งมาจากใต้ดินมากที่สุด ไปที่ไหนก็ได้กลิ่นซัลเฟอร์เต็มไปหมด น้ำพุร้อน มันขึ้นทุกที่เลย แม้กระทั่ง สวนหลังบ้านของใครหลายคน ภารกิจแรกใช้เวลาไม่นานนัก เราเดินทางกันต่อ ไปเมืองที่ชื่อว่า เทาโป ใช้เวลาเดินทางอีก ประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองนี้แหละที่ผมอยากไปมากๆ เพราะว่าเห็นในรูปก่อนมาแล้วว่ามันมีหิมะ และแล้วความฝันของ ผมก็เป็นจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะผมเห็น หิมะ แต่ว่ามันอยู่บนยอดเขา ผมไม่ได้สัมผัสมันจริงๆ แต่มองยังไง ก็สวยไปหมด ถ้าเปรียบเทียบกับคนเวลาเราเดินผ่านใครแล้วสะดุดตา เรามักจะหันไปมองอีก มองไม่มอง เปล่าแอบยิ้มซะอีก นั่นแหละความรู้สึกผมครั้งแรกที่รถ วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองเทาโป จากนั้นเราก็พักกินข้าวกันที่ ร้านอาหารไทย รสชาด ก็กินได้สำหรับฝรั่ง แต่สำหรับเราก็แปลกๆนิดหน่อย จากนั้นก็ไปแช่น้ำพุร้อน ให้หายเหนื่อยจากการเดินทางผมมีโอกาสได้เล่นสไลเดอร์ซึ่งมันต้องเดินขึ้นบันได สูงมาก เวลามองลงมา แทบจะไม่อยากเล่นจริงๆแล้วเขาไว้เล่นสำหรับเด็กนะแหละ แต่ผมก็เห็นว่ามันน่าเล่น อยากกลับไปเป็นเด็ก อีกครั้ง ก็เลยอาศัยความเนียน แอบย่องขึ้นไป ทั้งที่เราจะต้องจ่ายตังค์ที่เคาเตอร์ก่อน จริงๆผมก็ไม่รู้หรอก มารู้อีกทีก็ตอนที่เด็กฝรั่งตัวเล็กๆมาบอกตอนที่เรากำลังจะกระโดดจะให้เดินลงมา ก็กลัวเด็กมันว่าเอาว่าเรา ไม่กล้า555จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อไปยังน้ำตกที่ชื่อ น้ำที่ตกลงมาไหลผ่านไปนั้นมองเห็นเป็นสีฟ้าเข้มชัดเจน และใสสะอาดมาก ที่สำคัญเย็นเจี๊ยบ ถ้ากระโดดลงไป อุณหภูมิคงเหมือนน้ำเย็นจัดที่เราดื่มกัน เอาเป็นว่าทริปนี้ ผมเรียนรู้อะไรเยอะแยะมากมาย ที่บอกกับตัวเองว่าผมจะกลับมาเยือนเมืองนี้อีกครั้ง


Monday, April 16, 2007

Don't cry

จริงๆก็ไม่อยากเขียนเรื่องนี้ลงหรอกนะ เพราะว่าไม่อยากประจานตัวเอง 555 แต่ว่าที่อยากเขียนก็เพราะว่ามันเป็นบทเรียนชิ้นหนึ่งที่ผมควรจดจำไว้ เผื่อว่าวันหลังมานั่งอ่านก็อดหัวเราะตัวเองไม่ได้ หรือไม่ก็อดสมนำหน้าตัวเองไม่ได้ คุณเคยร้องไห้ไหม? แน่นอนอยู่แล้วว่าทุกคนคงต้องเคยร้องไห้ แต่เรื่องที่ผมเขียนนี้ ผมไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ ไม่เห็นแม้แต่น้ำตาเลย แต่มันเป็นการร้องไห้ที่อยู่ในใจ เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ช่วงที่ผมมานิวซีแลนด์แรกๆ ผมพยายามส่งสิ่งหนึ่ง(ขอไม่บอกละกันนะจ๊ะ เก็บไว้สมน้ำหน้าคนเดียวนะดีแล้ว ไม่อยากให้มาสมน้ำหน้าเพิ่มอีก 555) ไปที่เมืองไทย ก็ส่งทางไปรษณีย์นั่นแหละ เพียงแต่ว่า การที่เราไว้ใจคนอื่นมากเกินไปมันก็ไม่ดีเสมอไปนะ ผมมักจะไว้ใจคนอื่นง่ายๆ ก็ให้เพื่อนผมเป็นคนส่ง แล้วไอ้เพื่อนเจ้ากรรมนี่แหละมันดันไปติดแสตป์แค่ 40 เซนต์ แล้วมันจะไปถึงเมืองไทยไหมหนอ ผมมารู้ทีหลังว่ามันติดแสตมป์ไม่ถึงราคาที่เขากำหนดไว้ ตอนนั้นนะโมโหควันออกหูออกจมูกออกปาก ไม่ได้โมโหเพื่อนเจ้ากรรมนะ โมโหตัวเองที่ทำไมไม่ส่งเองว่ะ ทำไมงี่เง่าอย่างนี้ ผมไปเช็คที่ที่ทำการไปรษณีย์ เขาบอกว่ามันถึงเหมือนกันแต่ใช้เวลานานหน่อย ผมรอมาสองเดือนแล้วมันก็ไม่ถึง สุดท้ายผมรู้แล้วล่ะว่ามันหาย ลืมไปแล้วสิว่าเขียนอะไรในนั้นบ้างนอกเหนือจากสิ่งของแล้ว แต่รู้ว่ามันสำคัญมากทีเดียวว เฮ้อ...คิดแล้วก็เจ็บใจตัวเอง แต่...ช่างมันเถอะ

Let there be light in the darkness.

Somehow I really like this picture. I think it belongs to Jennifer Cook. I want to thank Nueng for sending me this picture. Have you ever watched Dragonball? This is what i am talking about. I wonder where she took this picture. I want to share this picture to you guys. Always give thanks to the Lord for the light of his love that is shining.

What would you like to do when you're alone?



ได้เวลาเขียนเป็นภาษาไทยสักที ทำไมถึงเขียนเป็นภาษาไทยนะหรือ ก็เพราะว่าเวลาต้องการใส่ความรู้สึกเข้าไป ภาษาบ้านเกิดของเราก็น่าจะให้อารมณ์ได้มากกว่าอยู่แล้ว หรือไม่ก็บางทีไม่อยากให้ฝรั่งอ่าน 555. ปล่าวหรอก เรามันไม่ได้เก่งภาษาอะไรมากมายนี่นา มาอยู่นิวซีแลนด์แล้วรู้สึกว่า ภาษากำลังเสียศูนย์ ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดหรอกครับ มันกำลังเดินทางไปสู่จุดหนึ่งที่ภาษาเหนือเขาเรียกว่า มันป๋นกั๋นไปหมดเลยอ่ะ เอ...มานึกในใจตกลงจะพูดภาษาอะไรกันแน่ อะไรๆก็ ey..ey..ey ลงท้ายตลอด เหมือนสิงค์โปร์กับมาเลียเซียอะ อะไรๆก็ lah lah ตลอด บางทีลืมตัว ไปหลงพูด lah ใส่คนที่พูด ey..ey มานึกอีกทีก็ขำตัวเองเหมือนกัน อยู่ดีดีมันก็เป็นไปโดยอัติโนมัติ ไม่ได้ดัตจริดหรืออะไร เพียงแต่มันเข้าหูทุกวันมั้ง
เฮ้อ....เวลาเหงา คุณชอบทำอะไรเหรอ หรือเวลาคุณอยากให้เวลากับตัวเองคุณทำอะไรบ้างเหรอ ผมเป็นคนหนึ่งที่มักมีโลกส่วนตัวสูง แต่ไม่สูงมากจนอยากอยู่คนเดียวหรอกนะ สิ่งที่ผมชอบทำเวลาว่างๆ จริงๆ ผมชอบไปนั่งร้านกาแฟ แล้วมองออกไปข้างนอกร้าน และคงหนีไม่พ้นกาแฟร้านโปรดของผม คุณรู้อยู่แล้วนี่ว่ามันคือ Starbucks นั่นเอง สามรูปข้างบนที่เห็นอยู่นี้เป็นรูปที่ผมถ่ายจากข้างในร้านกาแฟ เวลามองออกไปข้างนอกแล้วมันได้อารมณ์ไปอีกแบบ ผมสามารถนั่งอยู่ในนั่นได้นานมากกว่า 3 ชั่วโมง ชอบเอาหนังสือติดไปสักเล่มไปนั่งอ่าน สั่งกาแฟสักแก้ว และแน่นอนว่าต้องเป็น Frap Caramel แค่นี้ก็มีความสุขสุดๆอย่างบอกไม่ถูก เวลาเหงาๆนะ มักทำบ่อย จะว่าไปกาแฟที่นี่ราคาเท่าเมืองไทยเลยแฮะ ก้อ...ดี


Sunday, April 01, 2007

Songkran Festival in Tauranga

I love this mountainAnother scene
Look closer then you will see sheeps

Well Just wanna show my lovely shoes


Som-Tom Thai

SongKran Festival in Tauranga April 1, 2007. I remember that last year I was preparing to go to Songkran Festival in Chiangmai Thailand but someone came to the Payap Church and stole the laptop. I could not go anywhere. I had to do my senior project again cause my important data was in that laptop. Ohh also It's not my laptop, It was Un's laptop so I had to buy her a new one.

This year I went to Songkran Festival in Tauranga New Zealand. I see many thai people here. I think it's really different from Songkran in Chiangmai. Well I love Songkran in Chiangmai better lah.